วันพุธที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2553

เจริญ สิริวัฒนภักดี

เจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของบริษัทเบียร์ช้าง ได้รับการจัดอันดับเป็นเศรษฐีอันดับ 307 ของโลก และอันดับ 2 ของประเทศไทย (อันดับ 1 นายเฉลียว อยู่วิทยา เจ้าของเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง และอันดับ 3 นายธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าของเครือเจริญโภคภัณฑ์) จัดอันดับโดยนิตยสารฟอร์บ นายเจริญสร้างธุรกิจเบียร์ช้างได้ด้วยตนเอง โดยบิดาเป็นพ่อค้าขายหอยทอดในกรุงเทพมหานคร แต่ในปัจจุบันได้เป็นเศรษฐีของเมืองไทยในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และมีธุรกิจแตกแขนงไปมากมาย อาทิ พันธุ์ทิพย์พลาซ่า สนามกอล์ฟเลควิว โดยในปี พ.ศ. 2548 ได้มีโครงการขยายกิจการไปสู่ต่างประเทศ และเข้าเป็นผู้สนับสนุนหลักของสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน ในพรีเมียร์ลีกนอกจากนี้ยังเป็นเจ้าของกิจการ โรงแรม พลาซ่า แอททินี่ ในกรุงเทพมหานคร และในนิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา

สมรสแล้วกับ คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี มีบุตร 5 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 3 คนชื่อ อาทินันท์ วัลลภา ฐาปน ฐาปนี และ ปณต (ข้อมูล พ.ศ. 2548)

ประวัติ

นายเจริญมีชื่อจีนว่า “โซวเคียกเม้ง” (苏旭明, เคียกเม้ง แซ่โซว) เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2487 บิดามีอาชีพขายหอยทอด ใช้เวลาเรียนถึง 8 ปีเพื่อให้จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนเผยอิง เนื่องจากระหว่างเรียนต้องทำงาน หาเลี้ยงชีพด้วยการขายของเล็กๆ น้อยๆ เมื่อเขาอายุ 11 ปี ได้รับจ้างเข็นรถส่งสินค้า ย่านสำเพ็ง ทรงวาด จากนั้นก็ขยับเป็นพ่อค้าหาบของขาย


ช่วงเริ่มเข้าสู่ธุรกิจสุรา

ปี พ.ศ. 2504 ได้เป็นลูกจ้างของชาวจีนที่อพยพมาอยู่เมืองไทยคนหนึ่ง ในบริษัท "ย่งฮะเส็ง" และห้างหุ้นส่วนจำกัด "แพนอินเตอร์" ที่จัดส่งสินค้าให้ "โรงงานสุราบางยี่ขัน" นำมาสู่การรู้จักกับนาย "จุล กาญจนลักษณ์" ผู้เชี่ยวชาญการปรุงรสสุรา "แม่โขง"

เจ้าสัวเข้าสู่วงการธุรกิจสุราด้วยการชวนของเถลิง เหล่าจินดา แห่งกลุ่มสุราทิพย์ ผู้ซึ่งต่อมาเป็นปรปักษ์กับตระกูลเตชะไพบูลย์ ซึ่งถือเป็นเจ้าพ่อในวงการนี้มายาวนาน ในปี 2525 เมื่อเถลิงผ่านการต่อสู้อย่างโชกโชน ก็เหนื่อยล้าลาจากวงการไป เจริญก็เข้าสวมแทนและสามารถเอาชนะกลุ่มเตชะไพบูลย์ โดยเข้ายึดครองกลุ่มสุรามหาราษฎร อย่างสิ้นเชิงในปี 2530 ในขณะเดียวกันนั้น พ่อตาของคุณเจริญ ก็เข้ายึดกิจการบริษัทเงินหลักทรัพย์จากตระกูลเตชะไพบูลย์อีกสายหนึ่ง ต่อมาเมื่อเตชะไพบูลย์สายนั้น (คำรณ เตชะไพบูลย์) มีปัญหาในการบริหารธนาคารมหานคร เจริญและพ่อตา ซึ่ง มีสองขาทางธุรกิจที่หนุนเนื่องกัน (ธุรกิจสุราและการเงิน) และกำลังเริ่มยิ่งใหญ่ในปี 2530 ก็เข้ายึดครองกิจการ การเงิน ทั้งธนาคารและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ไว้ ทั้งๆ ที่ธุรกิจการธนาคารสำหรับ สังคมไทย ถูกปิดตายสำหรับคนนอกมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง จากจุดนี้จึงถือว่า เจริญ สิริวัฒนภักดี สร้างอาณาจักรที่มั่นคงและโหมโรงการขยายตัวอย่างเชี่ยวกรากในเวลาจากนั้นมา


ขยายสู่ธุรกิจเบียร์

ก่อนที่จะมาเป็นคนรวยที่สุดของประเทศไทย มีความยากจนมากแต่ท่านชอบอาชีพนักขายเป็นอย่างยิ่ง จึงได้ต่อสู้มาจนถึงปัจจุบัน ธุรกิจสุราดั้งเดิม แม้ว่าระบบสัมปทานแบบเดิมกำลังจะปิดฉากลง แต่เขาก็สามารถใช้เครือข่ายการค้าแบบเดิม ซึ่งฝังรากในตลาดล่างกับเครือข่ายการค้า ในชุมชนซึ่งถือว่าเป็นเครือข่ายการค้าที่เข้มแข็งที่สุดเครือข่ายหนึ่งในสังคมไทย ภายใต้ระบบเอเย่นต์ และระบบขายพ่วง (สุราพ่วงเบียร์ สุราพ่วงโซดา) ที่เข้มแข็งนั้นเดินหน้าธุรกิจต่อไปจากนั้นก็ต่อเนื่องเข้าสู่ธุรกิจเบียร์ (เบียร์ช้าง และเบียร์คาร์ลสเบอร์ก) ซึ่ง เสริมกับค้าสุราได้อย่างกลมกลืน ภายใต้โครงสร้างการแข่งขันที่ดุเดือดของธุรกิจนี้ นำเอาโมเดลการค้าสุรามาทำให้ความสามารถในการแข่งขันอยู่ได้ ซึ่งถือว่าเบียร์ช้าง เป็นคู่แข่งทางการตลาดของเบียร์สิงห์โดยตรง

ปี พ.ศ. 2537 ได้เข้าซื้อกิจการกลุ่มโรงแรมอิมพีเรียล ที่มีโรงแรมในเครือจำนวนมากจากนายอากร ฮุนตระกูล และจากนั้นก็ขยายธุรกิจอย่างไม่เคยหยุดยั้ง จนกระทั่งถึงปัจจุบัน


ตำแหน่งทางธุรกิจในปัจจุบัน


ลำดับเศรษฐีของนายเจริญ

  • เศรษฐีของโลกอันดับ 194 ในปี พ.ศ. 2548
  • เศรษฐีของประเทศไทยอันดับ 1 ในปี พ.ศ. 2548
  • ประธานบริษัท มิลเลียไลฟ์ อินชัวรัส์ จำกัด มหาชน


http://th.wikipedia.org

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 
Copyright © คนดัง | Theme by BloggerThemes & simplywp | Sponsored by BB Blogging