วันเสาร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2553

สรยุทธ สุทัศนะจินดา

นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เป็นพิธีกรและผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ของประเทศไทย มีชื่อเสียงในการสัมภาษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยนำข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์มาอ่านในรายการโทรทัศน์ หรือที่เรียกว่า เล่าข่าว (News Talk) ผลงานที่เป็นที่รู้จักได้แก่ รายการ เรื่องเล่าเช้านี้ คุยคุ้ยข่าว และ ถึงลูกถึงคน
สรยุทธ สุทัศนะจินดา

ประวัติ

สรยุทธ สุทัศนะจินดา มีชื่อเรียกเล่น ๆ จากเพื่อนฝูงและหมู่คนที่นิยมชมชอบว่า ยุทธ, สรพิษ, ส., เผือก, เฮียสอ เกิดวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2509เป็นบุตรของนางวิชชุดา สุทัศนะจินดา (แซ่โล้) เริ่มศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนเซนต์จอห์น แต่ถูกเชิญออกตอนประมาณ ม.1 เทอมปลาย จึงเรียนศึกษาผู้ใหญ่ หลังจากนั้นเข้าศึกษาในโรงเรียนอำนวยศิลป์ เป็นรุ่นที่ 57 และจบการศึกษา นิเทศศาสตรบัณฑิต (วารสารศาสตร์) มหาวิทยาลัยกรุงเทพ(เกียรตินิยมอันดับที่หนึ่ง)

สรยุทธเริ่มทำงานเป็นนักข่าว สังกัดหนังสือพิมพ์เดอะ เนชั่น เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2531 โดยเงินเดือนเริ่มต้นในขณะนั้น คือ 4,000 บาท โดยทำข่าวสายรัฐสภาเป็นเวลาสองปี และทำข่าวสายทำเนียบรัฐบาล อีกสองปี ต่อมาในปี 2535 ได้ประจำในกองบรรณาธิการ ในตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าข่าวการเมือง และในปี 2537 ได้เลื่อนตำแหน่งมาเป็นหัวหน้าข่าวการเมือง ในปี 2540 ได้มาเป็นบรรณาธิการข่าว และจัดรายการวิเคราะห์ข่าวให้สถานีโทรทัศน์ช่องต่าง โดยตำแหน่งหลังสุด ก่อนจะออกจากเครือเนชั่น คือ รองบรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์ เดอะ เนชั่น

นอกจากการเป็นผู้ดำเนินรายการแล้ว สรยุทธ ยังดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด (ผลิตรายการโทรทัศน์) และ บริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด (รับจัดงานและกิจกรรม) ด้วย

ปัจจุบันสมรสแล้ว กับ เพียงจันทร์ ว่องวิชชุเวทย์ Freelance สำนักพิมพ์เนชั่นบุ๊คส์ แต่ยังไม่มีบุตร


ผลงานรายการโทรทัศน์

รายการคม-ชัด-ลึก
รายการ ถึงลูกถึงคน


ปัจจุบัน


อดีต

ปกหนังสือ กรรมกรข่าว ปกแรก


ผลงานเขียน


คอลัมน์


หนังสือเล่ม

  • คมชัดลึก
  • กรรมกรข่าว
  • กรรมกรข่าว 2 งานรับเหมา
  • คุยนอกสนาม


รางวัลที่ได้รับ

สรยุทธ กับรางวัล Top Awards
  • Top Awards 2003
  • Star Entertainment 2003
  • รางวัลนิตยสารเปรียว
  • รางวัลเทพทอง
  • Top Awards 2004
  • Star Entertainment 2004
  • รางวัลโทรทัศน์ทองคำ


สมญาที่ได้รับ


ข้อวิพากษ์วิจารณ์

  • จากบทบาทของนายสรยุทธ ในรายการถึงลูกถึงคน เป็นที่รับรู้กันดีว่ามีสไตล์ถึงลูกถึงคนและตรงไปตรงมา ซักเอาข้อเท็จจริงอย่างถึงที่สุด ซึ่งภายหลังจากที่ได้ลาออกจากเนชั่น ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรายการโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยข่าวที่เสนอจะเป็นข่าวที่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญเหมือนในอดีต จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่านายสรยุทธอาจเป็นบุคคลหนึ่งในระบอบทักษิณ [3]จนมีชื่อปรากฏในเพลง ไอ้หน้าเหลี่ยม
  • การเล่าข่าวใน รายการ เรื่องเล่าเช้านี้ และ คุยคุ้ยข่าว ซึ่งนำข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์มาอ่านในรายการโทรทัศน์ โดยมีวิธีการนำเสนอที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อมวลชนด้วยกันถึงความเหมาะสมที่สื่อโทรทัศน์ ซึ่งมีทรัพยากรและบุคลากรเพียงพอที่จะทำข่าวอย่างมีคุณภาพ กลับนำข่าวจากสื่อหนังสือพิมพ์มาใช้ มานำเสนอโดยสอดแทรกความเห็นของตัวเอง ทั้งที่ไม่มีการหาข้อมูลในเชิงลึกเพิ่มเติม จนถูกบางคนเรียกชื่อรายการว่า "คุยคุ้ยเขี่ย" [4] [5] [6]
  • กรณีการนำสินค้าเข้ามาประกอบในรายการ และเก็บรายได้จากเจ้าของสินค้า (product tie-in) โดยไม่นำส่งส่วนแบ่งรายได้ของอสมท.ตามสัดส่วน เป็นจำนวนเงินถึง 98 ล้านบาท [7] [8] [9] [10] [11]
  • กรณีเปิดให้มีการส่งข้อความ เอสเอ็มเอส เข้ามาแสดงความคิดเห็นในรายการ โดยอ้างว่าเพื่อการเปิดกว้างแสดงความเห็น โดยมีของรางวัลสมนาคุณ แต่มีการแสวงหาประโยชน์จากการแบ่งรายได้กับบริษัทบริการโทรศัพท์ [12]

หลังจากข้อเท็จจริงเรื่องนี้ถูกเปิดเผย และเป็นข่าวทางหนังสือพิมพ์ และถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง นายสรยุทธ กลับเก็บตัวเงียบ ปฏิเสธว่าไม่ได้รับรู้ด้วย [13] และปิดปรับปรุงส่วนบอร์ดรับความคิดเห็น ในเว็บไซต์ส่วนตัว อย่างไม่มีกำหนด[14]

  • ราวเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2549 สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บมจ.อสมท ตรวจพบว่า บริษัท ไร่ส้มฯ ของนายสรยุทธ ค้างรายได้จากการโฆษณา เป็นเงินเกือบ 100 ล้านบาท โดยที่ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท อาจรู้เห็นด้วย ซึ่งต่อมาการแถลงของผู้บริหาร บมจ.อสมท ต่อกรณีนี้ก็ไม่มีความชัดเจน ต่อมาคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ เป็นประธาน เปิดเผยผลสอบว่า บริษัทไร่ส้ม โฆษณาเกินกว่าสัญญาจริง สร้างความเสียหายให้ อสมท. เป็นเงิน 138 ล้านบาท [15]
  • หลังเหตุการณ์รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549 แล้ว นายกนก รัตน์วงศ์สกุล พิธีกรร่วมรายการคุยคุ้ยข่าวและเพื่อนสนิทนายสรยุทธ์ได้ยุติการทำรายการร่วมไป โดยมีเสียงซุบซิบเล่าลือกันว่า เป็นเพราะนายกนกไม่อาจทำงานร่วมกับนายสรยุทธ์ต่อไปได้ เนื่องจากเป็นสื่อ ฯ ที่รายงานข่าวไม่ตรงไปตรงมาและมีผลประโยชน์แอบแฝง โดยตอนหนึ่งนายกนกได้เขียนลงในนิตยสารเนชั่นสุดสัปดาห์ว่า "ผมทำงานกับคนโกงไม่ได้" โดยสื่อให้เข้าใจว่าหมายถึง นายสรยุทธ[17]
  • หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล พิธีกรร่วมในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ หลังจากที่ทำหน้าที่พิธีกรร่วมมาในระยะเวลาไม่นาน ก็ยุติการทำรายการร่วมไป โดย ม.ล.ณัฏฐกรณ์ ได้เปิดเผยว่าเพราะ นายสรยุทธ ไม่เคยให้เกียรติตน อีกทั้งไม่เห็นด้วยกับแนวทางการนำเสนอข่าวของนายสรยุทธ[18] [19]
  • ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากกรณีนำบิดาของผู้ต้องหาจากเหตุการณ์ขับรถเบนซ์ชนพนักงานองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จนเสียชีวิต มาให้สัมภาษณ์แต่เพียงฝ่ายเดียว โดยพาดพิงถึงฝ่ายพนักงาน ขสมก. เป็นเหตุให้พนักงาน ขสมก. ไม่พอใจและได้ร่วมกันยื่นหนังสือประท้วงช่อง 3 ต้นสังกัดของนายสรยุทธ ถึงความเป็นกลางในการนำเสนอข่าวสาร[20]
  • ถูก บมจ.อสมท.ฟ้องดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง และปลอมแปลงเอกสาร จากกรณีความผิดปกติในรายได้ค่าโฆษณา[21]


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 
Copyright © คนดัง | Theme by BloggerThemes & simplywp | Sponsored by BB Blogging